วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การเลี้ยงกระต่าย

กระต่ายเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีคนนิยมเลี้ยงกันมาก เพราะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายเชื่องสะอาดและน่ารัก หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าประโยชน์ของกระต่ายนอกจากจะเป็นสัตว์เลี้ยงไว้ดูเล่นแล้ว กระต่ายยังมีคุณค่าต่อมนุษย์อย่างมากมายเกินกว่าที่คนทั่วไปจะนึกถึง คือกระต่ายเป็นสัตว์ที่ให้เนื้อใช้เป็นอาหารได้ดีเท่ากับเนื้อสัตว์อื่นๆ แต่ราคาถูกกว่า เพราะกระต่ายให้ลูกดกมากกว่าสัตว์แทบทุกขนิดแม่กระต่ายให้ลูกได้ปีละ 24 ถึง 36 ตัว หรือ 4 ครอกเป็นอย่างน้อย ลูกกระต่ายโตเร็วมากหรือโตเร็วเท่ากับไก่กระทง คือ จะได้น้ำหนักประมาณ 1.5  กิโลกรัม เมื่ออายุ 8-10 สัปดาห์ เมื่อเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 1 เดือน จะมีน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัม ขึ้นไปก็จะใช้เป็นอาหารได้
เนื้อกระต่ายเป็นเนื้อที่มีโปรตีนสูง มีแคลอรี่ต่ำและมีไขมันน้อย เนื้อนุ่มไม่เหนียว ใช้ประกอบอาหารได้หลายชนิด นอกเหนือจากเนื้อใช้รับประทานได้แล้ว ขนและหนังกระต่ายเมื่อฟอกเสร็จแล้วนำมาทำสิ่งประดิษฐ์ได้หลายอย่าง เช่นทำกระเป๋าของสตรี ทำรองเท้าแตะใช้ในบ้าน ทำเสื้อคลุมหรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้หลายชนิด
            ในวงการแพทย์มีการใช้กระต่ายเป็นเครื่องมือศึกษาทดลองและทำวัคซีนหลายชนิด เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่มีการขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็วจึงเหมาะในการใช้ทดลองทางชีววิทยามาก ในเมืองไทยเราเองต้องการกระต่ายเพื่อใช้ในงานนี้เป็นจำนวนมาก และมักหาไม่ค่อยพอใช้เสมอๆ ผู้เลี้ยงกระต่ายที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่มีห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานต่างๆ สามารถหารายได้จากการจำหน่ายกระต่ายเพื่อการนี้ได้
            กระต่ายที่เลี้ยงกันในปัจจุบัน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Oryetalagus cuniclus และมีชื่อสามัญว่า Eusopean rabbit หรือ true rabbit ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากกระต่ายป่าที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปยุโรป


            การเลี้ยงกระต่ายเริ่มต้นขึ้นในทวีปยุโรปโดยใช้เป็นสัตว์ปล่อยในอุทยานเพื่อใช้ล่าเป็นกีฬา โดยเหตุที่กระต่ายมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะเกิดขึ้นง่ายตามธรรมชาติ ทำให้เกิดสีสันและขนาดแตกต่างกันมากมายหลายแบบ ผู้ที่รักการเลี้ยงสัตว์จึงพยายามผสมและคัดเลือกกระต่ายให้มีความแปลกแตกต่างกันยิ่งขึ้นไปอีกความแตกต่างของกระต่ายเน้นไปทางด้านขนาด สีและลักษณะของขน นักผสมพันธุ์ได้ศึกษาการถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ของกระต่ายไว้มาก อันเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ชอบเล่นสนุกในงานผสมพันธุ์กระต่ายเป็นงานอดิเรก







ที่มา : สุวรรณ อ่อนวิมล.(2540).การเลี้ยงกระต่าย.โครงการหนังสือเกษตรชุมชน.กรุงเทพฯ.