อาหารกระต่าย

น้ำ

  น้ำเป็นโภชนาการที่สำคัญที่สุด น้ำที่สะอาด และเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงจะละเลยไม่ได้ ถ้าหากกระต่ายขาดน้ำกระต่ายจะไม่ยอมทานอาหารอะไรเลย จึงแนะนำว่าควรเปลี่ยนน้ำเช้า-เย็น นอกจากนี้อาทิตย์หนึ่งๆ ควรมีสักวันหยดวิตามินรวม น้ำสีแดงๆ ให้กระต่ายสัก 2-3 หยด ต่อน้ำครึ่งลิตร เพื่อให้กระต่ายได้รับวิตามินบางตัวที่ไม่มีในอาหาร เช่นวิตามินบี ซีและเค การผสมวิตามินลงในน้ำสามารถช่วยลดอาการเครียดและเป็นผลดีต่อกระต่ายแม่พันธุ์ที่ผสมติดต่อกันหลายครอก น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระต่ายและโดยเฉพาะในกระต่ายขน น้ำจะช่วยให้ขนกระต่ายมีคุณภาพที่ดี จำไว้ว่าลิ้นของกระต่ายค่อนข้างไวต่อรสชาติของน้ำที่เปลี่ยนไป และในบางครั้งเค้าอาจจะไม่ยอมดื่มน้ำที่แปลกกว่าที่เคยทาน แม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาอันสั้น ที่กระต่ายขาดหรือไม่ยอมทานน้ำ แต่สิ่งนี้อาจจะส่งผลให้เกิดเมตาโบลิซึมของการสร้างขนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจจะทำให้ขนกระต่ายพันกันได้


อาหารสำเร็จรูป

        อาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มีสารอาหารครบถ้วนและสัดส่วนพอเหมาะ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของกระต่าย กระต่ายทั่วไปมีความต้องการโปรตีน 14-17 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 2-4 เปอร์เซ็นต์ และไฟเบอร์อย่างน้อย 16 เปอร์เซ็นต์ โดยทั่วไปอาหารเม็ดสำเร็จรูปตามท้องตลาดมักจะมีอัตราส่วนอย่างพอเหมาะอยู่แล้ว และยังมีสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นเช่น วิตามินและเกลือแร่ แต่ผู้เลี้ยงสามารถผสมหรือให้ผักผลไม้อื่นๆ เพิ่มเติมอีกได้ โดยสามารถให้อาหารกระต่ายทุก 12 ชั่วโมง แต่เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน ฉะนั้นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการให้อาหารคือในช่วงเช้าตรู่และตอนหัวค่ำ กระต่ายเล็กอายุน้อยกว่า 3 เดือนควรจะได้รับอาหารเม็ดอย่างพอเพียง อาหารเม็ดใหม่ๆ และเปลี่ยนทุกวัน เช้าเย็น ควรจะมีไว้ตลอดอย่าให้ขาด เมื่อกระต่ายอายุมากขึ้น
        การจำกัดอาหารตามปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะปัญหาหลักของการให้อาหารกระต่ายก็คือ การให้อาหารมากเกินไป ถ้าเราให้อาหารเค้ามากเกินไป กระต่ายจะอ้วนและไม่แข็งแรง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับการผสมพันธุ์ติดยาก เพราะฉะนั้น แม้ว่ากระต่ายจะทานอาหารทั้งหมดที่ท่านให้ แต่ก็ต้องจำกัดอาหารอย่างเคร่งครัด สูตรง่ายๆ ของการให้อาหารเม็ด คือ ให้อาหาร 50 กรัมต่อน้ำหนักกระต่าย 1 กิโลกรัม ต่อวัน
  • กระต่ายขนาดเล็กเล็ก เช่น โปลิช และดัทช์ ให้ทาน 40 กรัมต่อมื้อ
  • กระต่ายหูตกพันธุ์เล็ก เช่น ฮอลแลนด์ลอป และอเมริกันฟัซซี่ลอป ให้ทาน 40 กรัมต่อมื้อ
  • กระต่ายแคระ สายพันธุ์เนเธอร์แลนด์ดวอฟ ให้ทาน 35 กรัมต่อมื้อ
การเลี้ยงกระต่ายที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากผู้เลี้ยงบางคนคิดว่ากระต่ายกินอะไรก็ได้ หรือเข้าใจว่ากระต่ายกินหญ้าเพียงอย่างเดียวซึ่งเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
            กระต่ายเป็นสัตว์กระเพาะเดียวที่กินพืชเป็นอาหารเช่นเดียวกับม้า สามารถใช้อาหารจากพืชที่มีเยื่อใยสูงพวก ใบพืช ต้นพืช ผัก เมล็ดพืชได้ดี การกินหญ้าของกระต่ายอย่างเดียวก็สามารถดำรงอยู่ได้ แต่อัตราการเจริญเติบโตไม่ดียิ่งเลี้ยงกระต่ายเป็นการค้า จำเป็นต้องให้อาหารที่ประกอบขึ้นอย่างมีสัดส่วนที่ถูกต้อง เราสามารถแบ่งอาหารที่ใช้เลี้ยงกระต่ายได้เป็น 2 ประเภทคือ

1.  อาหารหยาบ หมายถึง อาหารที่มีเยื่อใยสูง มีโภชนะย่อยได้ต่ำได้แก่ อาหารประเภทจำพวกต้นพืชและใบพืช อาหารประเภทหญ้ามีราคาถูกหาได้ง่าย อาจเป็นที่ขึ้นอยู่ในที่รกในบริเวณบ้านก็ได้ แต่อาหารประเภทนี้มีโปรตีนต่ำ หรือมีเนื้ออาหารน้อย เว้นแต่จะเป็นต้นถั่ว หรือพืชตระกูลถั่วบางชนิด

2.  อาหารข้น อาหารข้นเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง แบ่งออกเป็น 2 พวก คือ พวกที่ได้จากพืช เช่น กากถั่วเหลือง กากถั่วลิสง กากเมล็ดฝ้าย ฯ และพวกที่ได้จากสัตว์ เช่น ปลาป่น เนื้อป่น เป็นต้น

ลักษณะของอาหาร

1.  อาหารหญ้า เป็นอาหารที่ให้กระต่ายกินอย่างเป็นอิสระ หญ้าอาจให้ในรูปหญ้าสด ซึ่งกระต่ายชอบกินเพื่อให้ได้ประโยชน์จากหญ้าเต็มที่ ควรตัดให้ยาว 4-5 นิ้ว แล้วใส่ลงในราง เพื่อไม่ให้กระต่ายเลือกกินเฉพาะส่วนยอดพวกหัวเช่น มัน ให้กินได้ทั้งหัวโดยให้กระต่ายแทะกินเอง
ข้อเสียของหญ้าสด คือมักจะเหี่ยวหรือเสียหายไปในเวลาอันสั้น ต้องเก็บของเหลือกินออกทุกวัน เพราะจะเน่าเสีย

2.  อาหารข้น อาหารข้นที่ไม่ได้ผสมอาหารหยาบลงไปด้วยจะอยู่ในลักษณะเป็นผงค่อนข้างละเอียดกระต่ายกินยากและตากหล่นมาก แก้ไขได้โดยผสมกับน้ำพอเปียกหรือปั้นเป็นก้อนให้กิน และถ้ากระต่ายกินไม่หมดก็ต้องทิ้งไป
วิธีที่เหมาะสมในการให้อาหารข้น คือ นำเอามาอัดเป็นเม็ดขนาดอาหารไก่แล้วทำให้แห้ง จะสะดวกต่อการให้กระต่ายกิน


3. อาหารสำเร็จรูปจากโรงงาน การเลี้ยงกระต่ายที่ทำเป็นการค้าเพื่อผลิตกระต่ายเนื้อมักผสมอาหารสำเร็จรูปและอัดเม็ดขนาดพอดี อาหารสำเร็จรูปเป็นอาหารที่มีหญ้าแห้งป่นผสมอยู่ด้วยจำนวนพอสมควร เมื่อผสมกับอาหารข้นและอัดเป็นเม็ดแล้วกระต่ายจะกินอาหารนี้อย่างเดียวโดยไม่ต้องให้กินหญ้าอีก การใช้อาหารสำเร็จรูปเป็นการตัดปัญหากระต่ายกินอาหารหลายอย่างและกินอาหารไม่พอดีกับความต้องการ ส่วนผสมของอาหารสำเร็จรูปจะทำให้มีส่วนประกอบอาหารทุกชนิดครบตามความต้องการของกระต่าย อาหารสำเร็จรูปผลิตจากโรงงานและมีจำหน่ายในท้องตลาด














ผลไม้


        กระต่ายสามารถทานผลไม้ได้บางชนิดเท่านั้น เช่น แอ็บเปิ้ล กล้วยน้ำว้า มะละกอ ฝรั่ง ส้ม แครอท สับปะรด สำหรับผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม แตงกวา ไม่สมควรให้เพราะอาจจะทำให้กระต่ายท้องเสียได้ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าเหมาะสมสำหรับกระต่ายเล็กที่เพิ่งเริ่มหัดทานอาหารอื่น นอกจากนมแม่ อายุตั้งแต่ 3 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะว่ากล้วยน้ำว้ามีโปรตีน แคลเซียมและสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อพัฒนาการของกระต่ายเด็ก มะละกอเป็นผลไม้ที่มีความจำเป็นสำหรับกระต่ายมาก เพราะว่าช่วยป้องกัน อาการเกิดก้อนขนไปอุดทางเดินอาหาร (Hair Ball) มะละกออบแห้ง เพียงชิ้นเล็กๆ ต่อวัน เป็นสิ่งที่พึงกระทำเป็นกิจวัตร นอกจากนี้ น้ำสับปะรดยังช่วยบรรเทาอาการเกิดก้อนขน ด้วยเช่นกัน

ผัก

        สำหรับผักที่เหมาะสำหรับกระต่าย มีหลายอย่างเช่น ใบกะเพรา (ป้องกันกระต่ายท้องอืด) ผักกาดหอม ถัวฝักยาว และผักบุ้งไทย ส่วนผักบุ้งจีนไม่สมควรให้เพราะว่ามียางเยอะ ซึ่งอาจจะทำให้กระต่ายท้องเสียได้ มีข้อสังเกตง่ายๆ ผักสีเขียวเข้มทานได้ ผักสีเขียวอ่อนควรหลีกเลี่ยง

อาหารเสริม

        อาหารเสริม เช่น ข้าวโอ๊ต เมล็ดทานตะวัน (ช่วยบำรุงขน) โดยเฉพาะข้าวเปลือก ซึ่งมีวิตามินบี เพื่อช่วยให้พ่อพันธุ์สมบูรณ์พันธุ์ก่อนผสม
        สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ภาชนะที่ใส่อาหาร เช่น ภาชนะดินเผา กระเบื้องเคลือบหรือกล่องใส่อาหารอัตโนมัติ และกระบอกน้ำหรือถังจ่ายน้ำอัตโนมัติ ควรจะดูแลเรื่องความสะอาดอย่างดีและพิเศษที่สุด ภาชนะควรทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละสองสามครั้ง เพื่อล้างคราบสกปรกเช่นปัสสาวะและอุจจาระที่อาจจะกระเด็นหรือตกค้างอยู่ โดยส่วนตัวอยากแนะนำให้ใช้ภาชนะที่ทำความสะอาดและแห้งได้ง่าย เพื่อลดโอกาสที่กระต่ายจะเกิดอาการท้องเสีย จากเชื้อรากรณีที่ภาชนะไม่แห้งสนิทได้ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงควรจะต้องหมั่นสังเกตกระบอกน้ำ ว่ากระต่ายสามารถเลียหรือดูดน้ำได้หรือไม่ โดยดูดจากปริมาณน้ำที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นจุกน้ำอัตโนมัติ ผู้เลี้ยงต้องหมั่นสังเกตตลอดเวลา หากจุกน้ำรั่วหรืออุดตันก็อาจจะส่งผลเสียหรืออันตรายกับชีวิตน้อยๆเหล่านี้ได้
        สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า สุขอนามัยของภาชนะอาหารและกระบอกน้ำ มีความสำคัญพอๆกันกับความสะอาดของอาหารที่ให้กระต่ายทาน หมายเหตุ ตัวเลขปริมาณอาหาร เป็นตัวเลขโดยประมาณ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามพฤติกรรมการกินของกระต่ายแต่ละตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น